
สอนวิธีเริ่มต้นใช้งาน Looker Studio มือใหม่ก็ทำได้
เพราะการจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ Looker Studio หรือ Google Data Studio จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังจาก Google
เพื่อให้ทุกคนที่มีความสนใจ อยากเรียนรู้ และสนุกไปกับโลกของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, Facebook Ads, Google Ads, WordPress, Data Driven, Content Marketing และอื่นๆ
เพราะการจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ Looker Studio หรือ Google Data Studio จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังจาก Google
การวัดประสิทธิภาพของโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือ Click Through Rate หรือ CTR ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถประเมินว่าโฆษณาของพวกเขาสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ
ในยุคที่เข้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าหลายสิ่งหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ส่งผลให้การทำธุรกิจในปัจจุบันมีความซับซ้อน รวมถึงมีความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ธุรกิจจึงต้องตั้งรับให้มั่น ซึ่งหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ทุกธุรกิจผ่านพ้นปัญหา รวมถึงพัฒนาไปอีกขั้น นั่นก็คือ
การทำธุรกิจในปัจจุบันที่โลกดิจิทัลมีการเติบโต และเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรต่างก็ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพื่อให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมาย นำมาสู่การออกแบบการตลาดที่เหมาะสม ตลอดจนเอาชนะคู่แข่งได้ ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Data Driven อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดปัจจุบัน
ข้อมูล หนึ่งในทรัพยากรสำคัญที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจ นอกจากจะช่วยพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้นแล้ว ยังนำไปใช้ในการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย เพราะข้อมูลจะช่วยให้เราได้รู้จักลูกค้าและพฤติกรรมของลูกค้าที่แท้จริง รวมถึงช่องทางในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นได้ด้วย และในปัจจุบัน ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้การเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องง่าย อย่างเครื่องมือ Customer
การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเทคโนโลยีในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิต หรือธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทอย่างมาก คือการใช้ Big Data ผสานกับการวิเคราะห์ของ AI
การนำ Data เข้ามาทำการตลาดในปัจจุบัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่หลายธุรกิจ หลายองค์กรควรศึกษาและนำไปปรับใช้ เพราะ Data มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การทำ
การทำงานกับ Data สามารถเปลี่ยนแคมเปญการตลาดของคุณให้มีประสิทธิภาพและพัฒนาต่อยอดไปถึงการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจได้ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายเจ้า มีการทำงานกับข้อมูลที่มากกว่าการเก็บข้อมูลทั่วไป แต่เป็นการลงไปยังข้อมูลเชิงลึก ที่เข้าถึงตัวลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากกว่าที่เคย ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็จะเป็นธุรกิจจำพวกการเงิน
หลาย ๆ แบรนด์ในช่วงนี้เริ่มหันมาให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันกับ Data มากขึ้น เพราะทุก Data ที่อยู่รอบตัว เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญของแบรนด์ สามารถทำให้ตัวแบรนด์เองเข้าใจลูกค้าและทำการตลาดได้ดี
กลยุทธ์การทำ Data Driven Marketing ส่งผลดีต่อนักการตลาดที่ทำงานด้านข้อมูลเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้รู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตัวเองได้ดีขึ้นแล้ว ยังเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย อย่างที่รู้กันว่า ลูกค้าในปัจจุบัน มักต้องการใช้บริการแบรนด์ที่เหมาะกับตัวเองและเข้าใจตัวเองมากที่สุด
Data Driven Marketing กลยุทธ์ทางการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย Data คือ กลยุทธ์ที่นักการตลาดสามารถนำข้อมูลจากหลาย ๆ ช่องทาง มาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งข้อมูลก็อาจจะได้มาจากฝั่งออฟไลน์ ที่เจอกับลูกค้าโดยตรง หรือทางออนไลน์ ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เข้าถึงลูกค้าได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและนำมาปรับสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคตได้ทั้งหมด
ความสำคัญของการนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing เข้ามาใช้ในแผนการตลาด นอกจากที่จะสามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแล้ว ยังมีความสำคัญในด้านอื่น ๆ ดังนี้
ศึกษาตลาดและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น
บางธุรกิจที่เริ่มทำการตลาด อาจยังไม่ได้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และยังไม่ได้รู้จักตลาดมากนัก ทำให้การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น อาจไม่ค่อยได้ผล หรือไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ หากนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing เข้ามาใช้ ก็จะทำให้เราได้ศึกษาตลาดจากข้อมูลที่ได้มา เข้าใจตลาด เข้าใจลูกค้ามากขึ้น อาจมองเห็นลู่ทางในการพัฒนาและโปรโมตธุรกิจได้มากขึ้น และตามทันความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ในแต่ละวัน
รู้ Insight ของธุรกิจมากขึ้น
Data ที่เราได้มา สามารถนำมาวิเคราะห์ Insight ของธุรกิจให้ได้ดีมากขึ้น เพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุดและเหมาะสมกับการทำการตลาด เวลาที่ทำแคมเปญหรือโปรโมตสินค้าอะไรใหม่ ๆ จะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
นำมาปรับปรุงแผนการตลาดให้ดีมากขึ้น
หลังจากที่ได้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาดและลูกค้าแล้ว และรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะกลับมาเป็นลูกค้าได้เป็นใคร ก็นำข้อมูลที่ได้มา ไปปรับปรุงแผนการตลาดในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต
เครื่องมือที่ช่วยวัดผลการเข้าชมเว็บไซต์ เก็บรวบรวมข้อมูลได้ตั้งแต่ User ที่เข้ามายังเว็บไซต์ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจน User ออกจากเว็บไซต์ สามารถดูได้ว่า User คนไหน ชอบหรือไม่ชอบหน้าไหนบนเว็บไซต์ ดูช่วงเวลาที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากที่สุด User มาถึงเว็บไซต์จากช่องทางไหน เครื่องมือนี้จะช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากบนเว็บไซต์ ทำให้เราสามารถปรับเว็บไซต์ให้ตรงกับความสนใจของ User ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ ปัจจุบัน ผู้ที่ทำการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่มักนำเครื่องมือ Web Analysis มาใช้เกือบ 90% และบริษัทเอเจนซี่ส่วนใหญ่ที่มีการทำการตลาดและสร้างเว็บไซต์ให้กับแบรนด์ ต่างแนะนำให้แบรนด์นำเครื่องมือ Web Analysis เข้ามาใช้หมดทั้งสิ้น
ตัวอย่างเครื่องมือ Web Analysis : Google Analytics, Google Search Console
เครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลความสนใจ ความต้องการของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ ดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่จะรวบรวมจาก Facebook, Twitter, Pantip และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ความต้องการของผู้บริโภค รู้เทรนด์ในตลาดช่วงนั้น ตามทันโลก ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างมากต่อการทำ Data Driven Marketing รู้ไปถึงว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ รู้สึกกับแบรนด์ในแง่บวกหรือแง่ลบอยู่ในช่วงนั้นได้ด้วย
ตัวอย่างเครื่องมือ Social Listening Tools : Buzzsumo
เครื่องมือที่ช่วยให้เราทำการตลาดได้แบบอัตโนมัติ โดยเครื่องมือประเภทนี้ จะเข้ามาช่วยทำการตลาดได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น การเสิร์ฟคอนเทนต์เข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างการทำ Content Marketing หรือการส่งโปรโมชั่นหรือข้อเสนอดี ๆ ไปทางอีเมล อย่างการทำ Email Marketing หรือแม้แต่สร้างฟอร์มเพื่อเก็บข้อมูลของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายลงระบบได้อย่างอัตโนมัติ เครื่องมือนี้ จะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถทำงานทางด้านนี้ได้อย่างราบรื่น
ตัวอย่าง Marketing Automation Platform : HubSpot
เครื่องมือที่ช่วยให้การทำ CRM ของคุณเป็นระบบมากขึ้น มุ่งไปที่การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและภักดีต่อแบรนด์ จาก Data ที่ระบบเก็บมาและนำ Data เหล่านั้นไปต่อยอดการทำการตลาดได้ในอนาคต
ตัวอย่างเครื่องมือ Customer Relationship Management (CRM) : Salesforce, ChocoCRM
เครื่องมือที่ช่วยให้เราดู Data ในรูปแบบของ Report เห็นภาพรวมของข้อมูลและการทำงานทั้งหมด ข้อมูลที่อยู่บน Report ก็สามารถนำมา Analyst เพื่อนำผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไปใช้สร้างแคมเปญการตลาดได้ โดยเครื่องมือนี้ จะทำให้เราไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ซับซ้อนและวุ่นวาย สามารถเปิดเครื่องมือมาและเห็นข้อมูลเหล่านั้นได้ทันที
ตัวอย่างเครื่องมือ Report Analysis : Tableau
การทำ Data Driven Marketing ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว เพราะต้องอาศัยการ Research อาศัยการสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทุก ๆ วัน ยิ่งธุรกิจไหน มีการทำ Data Driven Marketing มากขึ้น อาจทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม
Let’s GROW together !
Growfox© 2020, All Rights Reserved.