แหล่งรวมความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ - Digital Marketing

เพื่อให้ทุกคนที่มีความสนใจ อยากเรียนรู้ และสนุกไปกับโลกของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, Facebook Ads, Google Ads, WordPress, Data Driven, Content Marketing และอื่นๆ

แหล่งรวมความรู้ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ Digital Marketing
Brand Positioning คืออะไร
Marketing Strategy and Tactics

Brand Positioning คืออะไร ? พร้อมตัวอย่างจากแบรนด์ดังในไทย

ลองนึกถึงครั้งล่าสุดที่คุณเลือกซื้อสินค้าสักชิ้น ทำไมคุณถึงเลือกแบรนด์นั้น ? ทำไมไม่เลือกแบรนด์อื่นที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน คำตอบส่วนใหญ่มักไม่ใช่แค่เรื่องราคาหรือคุณภาพ แต่เป็นเพราะแบรนด์นั้นมีบางสิ่งที่โดนใจคุณ สิ่งนี้เองคือผลลัพธ์ของ Brand Positioning ที่ประสบความสำเร็จ

7Ps Marketing Mix คืออะไร
Marketing Strategy and Tactics

นักการตลาดต้องรู้จักกับ 7Ps Marketing Mix แค่ไหน ?

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ นักการตลาดจำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือและกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 7Ps Marketing Mix

Conversion Rate ต่ำ แก้ไขได้อย่างไรบ้าง
Performance Marketing

Conversion Rate ต่ำ แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?

ท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจออนไลน์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การสร้าง และรักษาฐานลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ แคมเปญการตลาดออนไลน์จึงมีบทบาทอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาสู่เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การได้ผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมากนั้นยังไม่ใช่ตัวชี้วัดสำคัญที่สุด หากแต่ควรมุ่งสนใจที่ Conversion Rate

เคล็ดลับเพิ่ม CTR (Click Through Rate) ให้กับโฆษณา
Performance Marketing

เคล็ดลับเพิ่ม CTR (Click Through Rate) ให้กับโฆษณา

การวัดประสิทธิภาพของโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือ Click Through Rate หรือ CTR ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถประเมินว่าโฆษณาของพวกเขาสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ

Marketing Funnel กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ ที่คุณควรรู้
Marketing Strategy and Tactics

Marketing Funnel กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ ที่คุณควรรู้

จะเริ่มทำการตลาดออนไลน์ อะไรคือสิ่งที่ควรลงมือทำเป็นอย่างแรก ? ก่อนเริ่มทำการตลาดออนไลน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางแผน เราอาจรู้ว่าเราขายสินค้าอะไร และใครคือกลุ่มเป้าหมาย แต่การจะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องมีวิธีการที่ชัดเจน

Conversion Rate Optimization เพิ่มยอดขายได้อย่างไร
Performance Marketing

Conversion Rate Optimization เพิ่มยอดขายได้อย่างไร ?

ในการทำการตลาด สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการทุกครั้งคือการวัดผลลัพธ์ หรือที่เรียกกันว่า Conversion Rate ซึ่งในบางธุรกิจ การวัดผลจากยอด Conversion อาจสอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ แต่สำหรับบางธุรกิจ

Google search console เครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยพลิก SEO เว็บไซต์
Performance Marketing

Google Search Console เครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยพลิก SEO เว็บไซต์ให้ดีขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพนั้น เครื่องมือวัดผลเว็บไซต์ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้เราสามารถวางแผนและพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างเหมาะสม หนึ่งในเครื่องมือที่ชาว SEO ต้องมีติดตัว คือ Google

Search Engine Optimization

ปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ด้วย Google Trend Tools พร้อมแนะนำฟีเจอร์น่าใช้

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางออนไลน์สูงขึ้นเรื่อย ๆ การทำ SEO (Search Engine Optimization) จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเว็บไซต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ธุรกิจ บล็อกส่วนตัว

A/B Testing วิธีช่วยเพิ่ม conversion rate
Performance Marketing

A/B Testing วิธีเพิ่ม Conversion Rate ที่นักการตลาดควรใช้

ในยุคปัจจุบัน Content Marketing ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ไม่ควรมองข้าม แต่การจะรู้ว่ากลยุทธ์หรือองค์ประกอบใดที่เรายังทำได้ไม่ดีนั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ช่วยในการทดสอบและวิเคราะห์ผลลัพธ์จากกลุ่มเป้าหมาย หนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพคือ A/B Testing บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ

Digital Marketing คืออะไร ทำไมแบรนด์ไม่ควรมองข้าม

Digital marketing คือการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ หรือ Search Engine เข้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งสารจากแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์ควรให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม Digital marketing เป็นอันขาด เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่้ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทำให้ Digital Marketing เข้ามามีบทบาทสำคัญ หากแบรนด์ไม่ทำการศึกษาหรือปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลก็อาจจะทำให้เสียโอกาสในส่วนนี้

Digital Marketing ทำผ่านช่องทางใดได้บ้าง

Digital Marketing สามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้หลากหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ และกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจของแต่ละแบรนด์

  • Social Media Marketing : หนึ่งในกลยุทธ์ Digital Marketing ที่หลายคนให้ความสนใจ ถือเป็นการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, Line, Twitter, TikTok ซึ่งการทำการตลาดรูปแบบนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น และช่วยให้แบรนด์ปิดการขายได้ง่ายกว่าช่องทางอื่น ๆ อีกด้วย

  • Content Marketing : การทำการตลาดที่อาศัยคอนเทนต์เป็นเครื่องมือในการสื่อสารสิ่งที่แบรนด์ต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ วิดีโอ
  • Email Marketing : Email Marketing คือการทำการตลาดผ่านอีเมล โดยใช้ข้อมูลอีเมลจากฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่เพื่อส่งข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชันดี ๆ ไปยังกลุ่มลูกค้า โดยคาดหวังให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ

  • SEO : SEO หรือ Search Engine Optimization คือเทคนิคที่ช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของเราอยู่ตำแหน่งสูง ๆ บน Search Engine อย่าง Google ซึ่งหลักการของ SEO จะเป็นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพบนเว็บไซต์ โดยอาศัย Keyword ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนค้นพบเว็บไซต์ของเราโดยไม่เสียเงินสักบาท

  • SEM : SEM หรือ Search Engine Marketing คือการทำการตลาดออนไลน์ที่อาศัยการจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาของ Google ในรูปแบบ Search เมื่อลูกค้ามีการค้นหาแบรนด์หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์ของเราก็จะแสดงผลในลำดับแรก ๆ บน Google

  • Affiliate marketing : Affiliate marketing คือการทำการตลาดอนไลน์รูปแบบหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจจะทำการจ้างบุคคลที่ 3 หรือนายหน้าให้เข้ามาช่วยขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งเจ้าของธุรกิจจะให้ค่าตอบแทนกับนายหน้าเหล่านั้นในรูปแบบค่า Commission เรียกได้ว่าเป็นการทำการตลาดที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย

  • Influencer Marketing : Influencer Marketing ถือเป็นการทำการตลาดที่ใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือบุคคลที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มารีวิวสินค้าหรือบริการ ช่วยกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

รวม 5 Metric พื้นฐานของ Digital Marketing ที่ควรรู้จัก

  • CPC (Cost Per Click) คือเครื่องมือที่ใช้วัดต้นทุนต่อการคลิกของโฆษณา อาจกล่าวง่าย ๆ ว่าเราจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิก ซึ่งเราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายต่อคลิกเองได้

  • CPM (Cost Per 1,000 Impression) คือต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง อาจกล่าวได้ว่าโฆษณาของเราจะถูกคิดเงินก็ต่อเมื่อมีคนเห็นครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่มียอดคลิกเข้ามาเกี่ยวข้อง

  • CPL (Cost Per Lead) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าต้นทุนต่อ Lead เครื่องมือนี้จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรารู้ว่า Lead ที่เราได้รับกลับมาจากการทำแคมเปญนั้นเฉลั้ยอยู่ที่ราคากี่บาท ซึ่งวิธีการคำนวณก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใช้ ค่าโฆษณา หารด้วยจำนวน Lead ที่เราได้รับนั่นเอง

  • CPS (Cost Per Sales) หรือต้นทุนต่อการขาย กล่าวคือแบรนด์จะทำการจ่ายเงินหรือจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับผู้ที่ขายสินค้าได้ โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของ Affiliate Marketing นั่นเอง

  • CPA (Cost Per Action) ถือเป็นการคำนวณต้นทุนต่อ Action ที่เกิดขึ้นจากโฆษณา ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ทำให้เห็นว่าแบรนด์ต้องลงทุนเท่าไหร่จึงจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ ทั้งนี้การทำ CPA ต้องดูที่วัตถุประสงค์ของแบรนด์ด้วยเช่นกันว่าต้องการ Action แบบไหนจากลูกค้า เช่น การลงทะเบียน การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก เป็นต้น

ข้อดีของการทำ Digital Marketing

ในยุคที่คนส่วนใหญ่หันมาใช้เวลากับแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน การทำ Digital marketing นอกจากจะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีแล้ว ยังมีข้อดีอีกมากมาย

  1. ช่วยให้ธุรกิจเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น : Digital Marketing ช่วยให้ธุรกิจสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้า ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

  2. สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่าการตลาดแบบเดิม : การทำการตลาดดิจิทัลช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องและตรงจุดมากกว่าเดิม เพราะมีเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์ระบุอายุ เพศ รายได้ ความสนใจ และอื่น ๆ อีกมากมายของกลุ่มเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ

  3. มีเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยทำการตลาดได้หลากหลายและวัดผลได้แม่นยำมากขึ้น : การทำการตลาดในปัจจุบันมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ ติดตามกลุ่มเป้าหมาย เครื่องมือที่ช่วยพัฒนาคอนเทนต์ เป็นต้น

  4. ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด : การทำแคมเปญการตลาดในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการยิงโฆษณายังมีราคาถูกอีกด้วย ทั้งนี้การทำโฆษณาออนไลน์ยังวัดผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

  5. สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า : ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้แบรนด์กับลูกค้ามีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น อาทิ แบรนด์สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันท่วงที หรือแม้กระทั่งแบรนด์ส่งสารบางอย่างให้กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ซึ่งการมีส่วนร่วมเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างไม่ยากนัก ทั้งยังส่งผลต่อความจงรักภักดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์อีกด้วย

ยกตัวอย่างการใช้งาน Digital Marketing ในธุรกิจประเภทต่าง ๆ

ธุรกิจร้านอาหาร อาจใช้แพลตฟอร์ม Facebook ในการโปรโมตร้าน โดยการทำ Content marketing ที่นำเสนอเมนูอาหาร ราคา รวมถึงโปรโมชันที่น่าสนใจพร้อมยิงโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้า หรือแม้กระทั่งการเพิ่มยอดขายด้วยการใช้ Influencer marketing ในการช่วยรีวิวร้านอาหาร

ธุรกิจ E-Commerce อาจใช้การทำ SEO ในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ช่วยให้กลุ่มลูกค้ามีโอกาสเจอร้านค้าหรือแบรนด์ของเรา หรืออาจจะใช้ประโยชน์จาก Email marketing ในการส่งข้อมูลสินค้า โปรโมชัน รวมถึงส่วนลดไปยังลูกค้าโดยตรงก็ได้เช่นเดียวกัน

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามสามารถใช้ประโยชน์จากการทำ Digital marketing ได้ทั้งนั้น เพียงแค่เราต้องเลือกใช้ช่องทางให้เหมาะสมกับธุรกิจ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้ก่อนใคร