Data Driven Marketing กลยุทธ์ทางการตลาด ที่ขับเคลื่อนด้วย Data

กลยุทธ์ Data Driven Marketing
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

การนำ Data เข้ามาทำการตลาดในปัจจุบัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่หลายธุรกิจ หลายองค์กรควรศึกษาและนำไปปรับใช้ เพราะ Data มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การทำ Data Driven Marketing จึงเป็นหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ควรศึกษา

Data Driven Marketing คืออะไร ?

Data Driven Marketing กลยุทธ์ทางการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย Data คือ กลยุทธ์ที่นักการตลาดสามารถนำข้อมูลจากหลาย ๆ ช่องทาง มาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งข้อมูลก็อาจจะได้มาจากฝั่งออฟไลน์ ที่เจอกับลูกค้าโดยตรง หรือทางออนไลน์ ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เข้าถึงลูกค้าได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและนำมาปรับสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคตได้ทั้งหมด

- 1 - Data Driven Marketing กลยุทธ์ทางการตลาด ที่ขับเคลื่อนด้วย Data

Data Driven Marketing สำคัญอย่างไร ?

ความสำคัญของการนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing เข้ามาใช้ในแผนการตลาด นอกจากที่จะสามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแล้ว ยังมีความสำคัญในด้านอื่น ๆ ดังนี้

ศึกษาตลาดและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น

บางธุรกิจที่เริ่มทำการตลาด อาจยังไม่ได้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และยังไม่ได้รู้จักตลาดมากนัก ทำให้การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น อาจไม่ค่อยได้ผล หรือไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ หากนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing เข้ามาใช้ ก็จะทำให้เราได้ศึกษาตลาดจากข้อมูลที่ได้มา เข้าใจตลาด เข้าใจลูกค้ามากขึ้น อาจมองเห็นลู่ทางในการพัฒนาและโปรโมตธุรกิจได้มากขึ้น และตามทันความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ในแต่ละวัน

รู้ Insight ของธุรกิจมากขึ้น

Data ที่เราได้มา สามารถนำมาวิเคราะห์ Insight ของธุรกิจให้ได้ดีมากขึ้น เพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุดและเหมาะสมกับการทำการตลาด เวลาที่ทำแคมเปญหรือโปรโมตสินค้าอะไรใหม่ ๆ จะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

นำมาปรับปรุงแผนการตลาดให้ดีมากขึ้น

หลังจากที่ได้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาดและลูกค้าแล้ว และรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะกลับมาเป็นลูกค้าได้เป็นใคร ก็นำข้อมูลที่ได้มา ไปปรับปรุงแผนการตลาดในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต

หลายธุรกิจมีข้อมูลอยู่ในมืออยู่แล้วแต่ไม่รู้วิธีที่จะปรับใช้ หรือไม่รู้วิธีที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รู้ไหมว่า ยิ่งเรามีข้อมูลในมือมากเท่าไหร่ เรายิ่งได้เปรียบคู่แข่งมากเท่านั้น และถ้าเราวิเคราะห์ข้อมูลที่มีได้เจาะลึกและตรงจุดมากขึ้น ก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นไปอีก แต่จะทำอย่างไร ให้กลยุทธ์ Data Driven Marketing ประสบความสำเร็จ มาดูกัน

ทำอย่างไร ให้การทำ Data Driven Marketing ประสบความสำเร็จ

ทำอย่างไร ให้การทำ Data Driven Marketing ประสบความสำเร็จ

สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ธุรกิจจะประสบความสำเร็จในกลยุทธ์ Data Driven Marketing ก็ต่อเมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับข้อมูล ดังนั้น ก่อนจะเริ่มทำ Data Driven Marketing ให้ประสบความสำเร็จคือต้องสร้างวัฒนธรรมในองค์กรให้เห็นความสำคัญของข้อมูล ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มี พร้อมทั้งนำมาปรับใช้กับกระบวนการทำงานทั้งหมดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ตั้งวัตถุประสงค์และเป้าหมาย

ปกติเวลาทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์อะไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องมีเลยก็คือ วัตถุประสงค์และเป้าหมาย Data Driven Marketing ก็เช่นเดียวกัน ก่อนอื่นเราควรตั้งวัตถุประสงค์ของการทำ Data Driven Marketing ก่อน เพื่อที่นักการตลาดจะได้รู้ว่า ควรจะต้องใช้ข้อมูลอะไร และจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ต่ออย่างไร ไม่เพียงเท่านั้น ต้องตั้งเป้าหมายเพื่อวัดประสิทธิภาพของการทำ Data Driven Marketing ด้วย และเป้าหมายหลัก ๆ ที่ใช้ Data Driven Marketing แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ คือเป้าหมายเพื่อทำการตลาดในระยะยาว เช่น นำมาใช้เพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนให้องค์กร เป็นต้น
  • เป้าหมายเชิงปฏิบัติการ คือเป้าหมายระยะสั้น เช่น เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพิ่มการมีส่วนร่วมบน Social Media เป็นต้น

การเก็บรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อมาใช้ทำ Data Driven Marketing สามารถเก็บข้อมูลได้จากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลที่เก็บจากลูกค้า โดยการเข้าถึงลูกค้าเอง หรือข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และถ้าหากใครมีระบบ CRM เป็นของตัวเอง ก็จะได้ข้อมูลลูกค้าแบบ Personal มากขึ้นด้วย

การวิเคราะห์ข้อมูล

หลังจากที่รวบรวมข้อมูลมาได้แล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือ การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลมาแล้ว จะได้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า ที่เป็นลูกค้าจริง ๆ ได้ แถมยังนำข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมา ไปใช้วางแผนการตลาดได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

ออกแบบ Content ให้ตรงจุด

เมื่อได้ข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมาแล้ว นำข้อมูลที่วิเคราะห์มาต่อยอดทางการตลาด โดยการสร้างกลยุทธ์การตลาดในแบบฉบับของตัวเอง มาคิดต่อว่าจะสร้างคอนเทนต์อะไรที่จะตรงกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในตอนแรก เพื่อเสิร์ฟให้ตรงจุดหรือตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ โดยที่คอนเทนต์ต่าง ๆ ควรจะมีดังนี้

  • เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
  • ใช้ภาษาชัดเจน เข้าใจง่าย ตรงประเด็น อ่านแล้วเคลียร์
  • เน้นย้ำว่าบริการหรือสินค้าที่มี นั้นเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ

วัดประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด

เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นไปแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ควรจะทำเลยก็คือการวัดประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาด

  • ติดตามผลลัพธ์ที่ได้ : ติดตามผลลัพธ์ที่ได้จากข้อมูลที่เก็บมา เช่น อัตตราการมีส่วนร่วม, การเข้าเว็บไซต์ เป็นต้น โดยสามารถใช้เครื่องมือทางการตลาดอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น Google Analytics, Google Search Console เป็นต้น มาใช้ในการติดตาม
  • วิเคราะห์ผลลัพธ์ : วิเคราะะผลลัพธ์เพื่อให้รู้ว่าแคมเปญที่ทำไปนั้น ทำให้ยอดขายของคุณดีขึ้นไหม ตรงไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไหม หรือควรเพิ่มและปรับปรุงแผนอย่างไร
  • ปรับปรุงแผนการตลาด : วิเคราะห์ผลลัพธ์เรียบร้อยแล้ว สามารถผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์มาปรับปรุงแผนการตลาดให้ดีขึ้น และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำงานขึ้น

ตัวอย่างการทำ Data Driven Marketing

ในปัจจุบัน มีตัวอย่างการทำ Data Driven Marketing ให้เห็นกันอยู่ทั่วไป และอยู่รอบ ๆ ตัว ซึ่งตัวอย่างที่เราจะเห็นได้บ่อย ๆ ก็คือการทำ Data Driven Marketing ในร้านกาแฟทั่วไปที่เรากินกันในทุกวัน

ซึ่งร้านกาแฟส่วนใหญ่ มักนำข้อมูลมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยจะเริ่มจากการสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อาจจะเริ่มต้นจากการขายสินค้าในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น เริ่มลองสำรวจแล้วว่า ร้านของตัวเอง มียอดขายและช่วงเวลาที่คนเข้าร้านน้อย ในช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น. ออเดอร์น้อย ยอดขายตก ก็อาจจะมีการเพิ่มโปรโมชันในช่วงเวลานั้น ทั้งโปรลดราคาหรือโปรแถม เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้านหรือกดสั่งซื้อกาแฟจากช่วงเวลาโปร ซึ่งนี่ก็เปิดอีกวิธีในการทำ Data Driven Marketing ให้กับร้านกาแฟของตัวเองนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง อาทิ Netflix Spotify และแอปพลิเคชันสั่งอาหารยอดนิยมอย่าง Grab ที่มีการนำ Data มาทำ Data Driven Marketing เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

แอปสั่งอาหาร GRAB Thailand

ในปี 2023 ที่ผ่านมา แอปพลิเคชัน Grab ได้ทำการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์การสั่งอาหารและของใช้ในบ้านให้เราได้ดูกัน จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ Covid-19 นั้นทำให้คนไทยหันมาใช้แอปพลิเคชันในการสั่งอาหารเพิ่มขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปพบปะผู้คนและลดความเสี่ยงต่อโรค อีกทั้ง Grab ได้ทำการเปิดพฤติกรรมการสั่งซื้อของคนไทยว่าทำการออเดอร์อาหารชนิดไหนมากที่สุด

หากเราลองกดเข้าไปในตัวแอปพลิเคชันจะพบว่า Grab มีการนำ Data ที่มีมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์มากมาย อาทิ ฟีเจอร์ Food for you ที่ทางแอปคัดมาแล้วว่าแต่ละคนจะชื่นชอบร้านหรืออาหารแบบไหน รวมถึงการที่นำข้อมูลมาใช้ในการโฆษณาเพื่อช่วยให้ร้านค้าพาร์ทเนอร์อย่าง KFC เพิ่มยอดขายได้ถึง 11 เท่า

จะเห็นได้ว่าแอปพลิเคชัน Grab ได้นำกลยุทธ์ Data Driven Marketing มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เรียกได้ว่าเป็นการใช้ข้อมูลที่ได้มาอย่างคุ้มค่าและเกิดผลลัพธ์ที่ทรงประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่อยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่ : https://www.grab.com/th/food-and-grocery-trends-report-2023/

สรุป

การทำ Data Driven Marketing ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว เพราะต้องอาศัยการ Research อาศัยการสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทุก ๆ วัน ยิ่งธุรกิจไหน มีการทำ Data Driven Marketing มากขึ้น อาจทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม