เพื่อให้ทุกคนที่มีความสนใจ อยากเรียนรู้ และสนุกไปกับโลกของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, Facebook Ads, Google Ads, WordPress, Data Driven, Content Marketing และอื่นๆ
ในปี 2025 นี้ การสร้างเว็บไซต์ฟรีไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีทั้งโปรแกรม และแพลตฟอร์มที่ให้บริการสร้างเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ โดยที่ผู้สร้างไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือทักษะในด้านการเขียนโค้ดเลย ต่อให้เป็นมือใหม่ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง ในบทความนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า LINE ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่หลายธุรกิจใช้สื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่ง LINE Rich Menu คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่น ทั้งยังช่วยปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TikTok Shop กำลังกลายเป็นช่องทางการขายออนไลน์ที่มาแรงในยุคปัจจุบัน เพราะแพลตฟอร์มนี้มีจุดเด่นในการผสมผสานระหว่าง Social Media และ E-commerce ทำให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นผ่านวิดีโอ และไลฟ์สด
สายคอนเทนต์ และสายกราฟิกดีไซน์ ต่างต้องใช้รูปภาพ เพื่อมาตกแต่งบทความ หรือนำรูปมาใช้เพื่อการโฆษณากันทั้งนั้น และในปัจจุบัน มีหลายแพลตฟอร์มที่ให้บริการดาวน์โหลดภาพฟรี ทั้งการใช้งานส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้แต่ละเว็บไซต์ก็มีเงื่อนไขการใช้งานแตกต่างกัน ควรเช็กก่อนใช้
ฟอนต์ฟรีใช้งานง่าย และมีหลากหลายแบบให้เลือกเหมาะสำหรับทุกการสร้างสรรค์ ใครกำลังมองหาฟอนต์ที่ถูกใจอยู่ เรารวบรวมมาให้แล้วกับฟอนต์น่ารัก ๆ สวย ๆ และดูโดดเด่นที่สามารถช่วยงานออกแบบให้ดูน่าสนใจ สะดุดตา ไม่ว่าจะใช้ในงานครีเอทีฟ
Social Media Marketing หรือชื่อย่อ SMM คือกระบวนการสร้างสรรค์และผลิตคอนเทนต์ เพื่อขายสินค้า หรือโปรโมตบริการต่าง ๆ โดยใช้ช่องทาง Social Media ยอดนิยม อาทิ Facebook Instagram X (Twitter) และอื่น ๆ เป็นช่องทางหลักในการทำการตลาด
ซึ่งการทำการตลาดแบบ Social Media Marketing จะช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแบรนด์สามารถใช้กลยุทธ์นี้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สร้างการรับรู้ ไปจนถึงการสร้างยอดขาย
หลายคนอาจจะสงสัย หรือมีคำถามเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง Social Media Marketing vs Digital Marketing อยู่ไม่น้อย นี่คือสรุปเบื้องต้นสำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 กลยุทธ์นี้
Brand Awareness สร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์
Social Media Marketing ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากช่องทางโซเชียล ถือเป็นช่องทางที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาตลอดทั้งวันไปกับการหาข้อมูล อัปเดตเทรนด์ต่าง ๆ ซึ่งแบรนด์สามารถใช้โอกาสเหล่านี้ในการโปรโมตธุรกิจของตัวเอง นำเสนอตัวตนของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ผ่านการทำคอนเทนต์ สร้างโปรไฟล์ ช่วยให้ลูกค้าค่อย ๆ ซึมซับ และรับรู้ถึงการมีอยู่ของธุรกิจคุณ
Social Media Marketing ช่วยเพิ่ม Traffic และ Engagement ให้กับเว็บไซต์
หลายคนอาจจะมีภาพจำที่ว่า SEO คือช่องทางสำคัญในการส่ง Traffic คุณภาพไปยังเว็บไซต์ แต่รู้หรือไม่ว่า Social Media Marketing ก็สามารถสร้าง Traffic และ Engagement ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่คุณใช้พื้นที่ของโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ โดยการสร้างสรรค์ และผลิตคอนเทนต์ดี ๆ พร้อมแปะลิงก์เว็บไซต์เพื่อส่ง traffic กลับมา เพียงเท่านี้เราก็จะได้คนเข้าชมเว็บไซต์ของเราเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ Social Media Marketing ยังช่วยสร้าง Engagement ดี ๆ ให้แบรนด์ได้ โดยการเชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย กดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้แบรนด์ของเรา และกลุ่มเป้าหมายใกล้ชิดกันมากขึ้น
Social Media Marketing ช่วยสร้าง Lead Generations และ Conversion
รู้หรือไม่ว่า Social Media Marketing นั้นช่วยให้แบรนด์เพิ่ม Lead Generations และ Conversion ให้กับธุรกิจได้ เพราะโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวาง แบรนด์สามารถใช้ช่องทางนี้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ โปรโมตสินค้าและบริการ หรือทำการยิงโฆษณา เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นให้พวกเขาลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ส่งผลให้แบรนด์ได้ Lead ที่มีคุณภาพ และสามารถแปลงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้กลายเป็นลูกค้าที่ภักดีหรือเกิดการซื้อขาย (Conversion) ได้ในที่สุด
ใช้ Social Media Marketing ดู Insight ของลูกค้า
Social Media Marketing ช่วยให้แบรนด์ศึกษากลุ่มลูกค้า และทำความเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นได้มากขึ้น ผ่านการสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ คอมเมนต์ และแชร์ หรือแม้กระทั่งช่องทางโซเชียลมีเดียบางตัวยังมีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ Insight ของลูกค้าอีกด้วย ทำให้เราได้ศึกษาและดูข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริง เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุด ๆ
Social Media Marketing ช่วยให้คุณศึกษาคู่แข่งได้
ไม่ใช่แค่คุณที่ทำ Social Media Marketing เพราะแบรนด์อื่น ๆ ในปัจจุบันก็หันมาใช้ช่องทางการทำตลาดรูปแบบนี้เช่นเดียวกัน คุณสามารถใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการศึกษาคู่แข่ง สำรวจดูว่าคู่แข่งของคุณใช้วิธีการทำแคมเปยการตลาดแบบใด หรือทำคอนเทนต์แบบไหน เพื่อช่วยให้คุณมีไอเดียใหม่ ๆ ทั้งยังช่วยให้คุณนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงแคมเปญการตลาดของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Facebook โซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้เป็นวงกว้าง ถือเป็นแพลตฟอร์มอันดับต้น ๆ ที่หลายคนเลือกใช้ในการทำการตลาด เพราะ Facebook มีฟีเจอร์ที่หลากหลายให้เลือกใช้งาน อาทิ โพสต์ รูปภาพ Reels ไลฟ์สด รวมถึง Facebook Group ที่เป็นแหล่ง Community ชั้นดี ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ Facebook ยังมี Business Page ช่วยให้ธุรกิจและร้านค้าทำงานได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับเครื่องมือในการทำการตลาดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Meta Business Suit, Facebook Ads Manager เรียกได้ว่าครบ จบ ในแพลตฟอร์มเดียว
Instagram ช่องทางโซเชียลมีเดียยอดนิยมสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบการลงรูป สตอรี่ หรือวิดีโอที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของตนเอง ซึ่งการทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม Instagram นี้ ธุรกิจส่วนใหญ่จะนิยมใช้รูปภาพและวิดีโอในการโปรโมตสินค้า บริการ คอนเทนต์หลัก ๆ มักจะเป็นวิดีโอที่โชว์ดีเทลสินค้า รวมถึงรูปภาพของสินค้าที่ทำการจัดองค์ประกอบให้สวยงาม ช่วยกระตุ้นความสนใจของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะเน้นข้อความที่สั้น กระชับ ไม่เหมาะกับการลงคอนเทนต์ที่เป็น article ยาว ๆ
X (Twitter)
X หรือ Twitter (เดิม) ช่องทางโซเชียลมีเดียที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการติดตามข่าวสาร อัปเดตเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งรูปแบบคอนเทนต์คือ ข้อความที่สั้น กระชับ ทำให้การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้เน้นความไว อาศัยการทำเรียลไทม์คอนเทนต์เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญแบรนด์มักใช้แฮชแท็กเป็นตัวกระตุ้นให้คนเข้ามาติดตามข่าวสาร พร้อมเชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายดันแฮชแท็กของแบรนด์ให้ติดอันดับ Trending
Tiktok
Tiktok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่โชว์แง่มุม ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ อาทิ คลิปตลก คลิปสาระ คลิปท่องเที่ยว ซึ่งการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้ก็สามารถทำได้หลากหลาย เพราะ Tiktok มีการพัฒนาตัวเองให้เข้ากับผู้ใช้งานอยู่เสมอ แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะสร้างตัวตน คาแรกเตอร์ให้คนรู้จัก พร้อมกับ Tie-in สินค้าลงในคลิปวิดีโอ ทั้งยังยิง Ads ไปหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังมี Tiktok Shop ที่ช่วยให้การช้อปเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย
Youtube
Youtube แพลตฟอร์มวิดีโอขนาดใหญ่ที่รวบรวมวิดีโอทุกประเภทมาไว้ที่นี่ ซึ่งผู้ใช้งานก็มีตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าเข้าถึงกลุ่มคนได้เป็นวงกว้าง ซึ่งแบรนด์สามารถทำโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Google Display Network หรือแบรนด์ทำคลิปรีวิวสินค้าของตนเอง พร้อมแปะลิงก์ใต้คอมเมนต์ ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถช้อปปิ้งได้บนแพลตฟอร์มนี้เลย (แต่ยังไม่เข้าไทยนะ)
Linkedin ช่องทางโซเชียลมีเดียที่มุ่งเน้นเรื่องของธุรกิจ ผู้คนส่วนใหญ่มักใช้ค้นหางาน ตำแหน่งที่ใช่ เป็นสื่อกลางระหว่างผู้จ้าง และผู้ถูกจ้าง ซึ่ง Linkedin นั้นเป็นช่องทางที่ค่อนข้างทางการ ดู Professional และมีความน่าเชื่อถือ เหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ที่ส่งเสริมธุรกิจ เน้นความเป็น Branding เพื่อช่วยให้คนรู้จักกับธุรกิจเรามากขึ้น
รู้จักธุรกิจของตนเอง (Know your business)
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด คือ การรู้จักธุรกิจของตนเอง เราควรสำรวจว่าธุรกิจของเรานั้นมีจุดแข็ง จุดอ่อนอย่างไร มีคู่แข่งเป็นใครบ้าง มีช่องทางสร้างรายได้จากช่องทางไหน และมีอุปสรรคอะไร ซึ่งหากธุรกิจใดอยากรู้จักกับตัวเองมากขึ้น สามารถนำ Framework ในการทำการตลาดไปปรับใช้ได้ เช่น Business model canvas, SWOT analysis
รู้จักลูกค้าของแบรนด์ (Know your audience)
เมื่อเรารู้จักกับธุรกิจของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อมา เราต้องรู้จักลูกค้าของแบรนด์ด้วย ธุรกิจควรรู้ว่าลูกค้าของตัวเองคือใคร เป็นคนแบบไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร อาศัยอยู่ที่ไหน รายได้เท่าไหร่ และมีความชื่นชอบ หรือสนใจเรื่องอะไร สามารถใช้ Customer persona เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลออกมา ทั้งนี้การที่แบรนด์รู้จักลูกค้าก็จะช่วยให้การทำการตลาดง่ายขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ (Set Goals & Objective)
การตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการทำ Social Media Marketing ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ และไม่ควรมองข้าม ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ธุรกิจกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ งบประมาณ ระยะเวลาในการทำการตลาด ซึ่ง SMART goal Framework จะช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น
การวางแผนคอนเทนต์ (Plan & Curate Contents)
การทำคอนเทนต์ ไม่ใช่ว่าจะทำคอนเทนต์แบบใดก็ได้ เพราะถ้าหากแบรนด์ไม่มีการวางแผนก็อาจจะทำให้คอนเทนต์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งแบรนด์ควรสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีคุณค่า ช่วยแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ประเภทของคอนเทนต์ก็มีมากมาย แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์ให้ความรู้ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ แล่นกับกระแสที่เกิดขึ้น คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแบรนด์ควรเลือกประเภทให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ใช้เครื่องมือในการทำงาน (Use Tools)
การทำคอนเทนต์ แน่นอนว่าต้องทำการรีเสิร์ช และใช้ไอเดียค่อนข้างเยอะพอสมควร ซึ่งการนำเครื่องมือเข้ามาช่วยก็จะทำให้เราได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการต่อยอดการทำงานมากยิ่งขึ้น โดย Tools ที่อยากแนะนำ และมีประโยชน์กับการทำการตลาด ก็คือ Google Trends เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้เราทราบว่าตอนนี้ผู้คนกำลังพูดถึงอะไร สิ่งไหนที่กำลังเป็นกระแส คีย์เวิร์ดที่ใช้คือคำว่าอะไรบ้าง เรียกได้ว่าครอบคลุมสุด ๆ
วิเคราะห์ผลลัพธ์ (Analyze and Optimize)
ขั้นตอนสุดท้ายคือการวิเคราะห์ผลลัพธ์ในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมว่าสิ่งที่ทำมานั้นมีทิศทางเป็นอย่างไร สำเร็จตามที่ตั้งใจหรือไม่ สร้างการเติบโตให้ธุรกิจมากน้อยแค่ไหน กลยุทธ์ที่เราเลือกใช้ดีพอหรือควรปรับเปลี่ยน แน่นอนว่าขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราได้ข้อมูลที่ดี เพื่อนำไปปรับใช้กับแคมเปญการตลาดครั้งถัดไปให้ประสบความสำเร็จ
Social media marketing ค่อนข้างมีบทบาทสำคัญกับการทำการตลาดในปัจจุบัน เพราะทุกธุรกิจให้ความสนใจ และหันมาทำการตลาดรูปแบบนี้กันค่อนข้างสูง อาจกล่าวได้ว่า กลยุทธ์ Social media marketing ช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในแง่ของการสร้างการรับรู้ การสร้างยอดขาย และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญกลยุทธ์นี้ยังช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
