สรุปประเด็นที่น่าสนใจจาก Google Marketing Live – 2024 ที่มาพร้อมกับ Concept New eras of AI โดยภาพรวมจะเป็นการกล่าวถึง ‘การอัปเดต Product ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ AI’ และนี่คือสรุปภาพรวมของอีเวนท์นี้ที่ควรรู้
AI Overviews - AI เข้ามามีบทบาทกับการ Search มากยิ่งขึ้น
เนื่องจากในปัจจุบัน พฤติกรรมการค้นหาของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงและมีวิธีการเสิร์ชที่หลากหลาย ซับซ้อนมากขึ้น ล่าสุด Google ก็ได้เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของ Gemini ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้าง “คำตอบ” ขึ้นมา ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีเยี่ยมกว่าเดิม อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้จะเสิร์ชแบบกว้าง ๆ แต่ Google ก็ยังหาคำตอบที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมาได้ ซึ่งตัว AI Overviews นี้จะขึ้นก่อน Ads เสมอ โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนทดสอบและมีแผนที่จะเปิดให้ใช้งานอย่างแพร่หลายในช่วงปลายปีนี้
PMax campaign - อัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Google ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ ‘Power Pair’ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างแคมเปญ Search และแคมเปญ PMax ส่งผลให้โฆษณาดีขึ้นถึง 27% โดย Google แนะนำให้ใช้คีย์เวิร์ดแบบ Broad Match ทำงานร่วมกับ Smart Bidding ซึ่งจะช่วยให้แคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก
PMax Reporting & Control ที่จะช่วยให้เราดู Report ได้ลึกขึ้นกว่าเดิม โดยเราสามารถดู Report ในระดับ Asset ที่จะช่วยให้เรารู้ได้ว่า Asset ไหนสร้างยอดขายได้ อีกทั้งยังดู Placement ที่เป็น Display ของแคมเปญได้อีกด้วย จะช่วยให้เราเห็นว่าโฆษณาไปแสดงผลที่เว็บไซต์ไหนบ้าง
ทั้งนี้ Google ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้เราสร้างสรรค์เนื้อหาโฆษณาสำหรับแคมเปญ PMax ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ประกอบไปด้วย
- การกำหนดแนวทางของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นสี ฟอนต์ และภาพ : ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดโทนสี ฟอนต์ และสไตล์ภาพที่ต้องการโดยให้ AI สร้างสรรค์โฆษณาให้
- การแก้ไขภาพด้วย AI : ระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถปรับแต่งภาพได้ เช่น เพิ่มหรือขยายพื้นหลัง, เพิ่มวัตถุ และปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมกับตำแหน่งโฆษณาที่แตกต่างกัน
- การสร้างโฆษณาอัตโนมัติจากฟีดสินค้า : ระบบ AI สามารถสร้างโฆษณาขึ้นมาโดยดึงข้อมูลสินค้าจากฟีดของผู้ลงโฆษณา
- การวัดผลการทำงานของแต่ละเนื้อหาโฆษณา : ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแต่ละแคมเปญได้ดีมากยิ่งขึ้น
Shopping Ad experiences - ปรับปรุงประสบการณ์ในการช้อปให้ดีกว่าเดิม
ถัดมาที่เรื่องของ Shopping Ads ล่าสุด AI ก็ได้เข้ามามีบทบาทในการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงประสบการณ์ในการ Shopping ให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงหลาย ๆ อย่าง อาทิ
- การลองเสื้อผ้าเสมือนจริง (Virtual try-on for apparel) : Google กำลังขยายประสบการณ์การลองเสื้อผ้าเสมือนจริง (VTO) ไปยังโฆษณาเสื้อผ้า เริ่มต้นจากเสื้อผู้ชายและเสื้อผู้หญิง ผู้ใช้จะสามารถดูว่าสไตล์ต่างๆ ดูเป็นอย่างไรกับรูปร่างที่แตกต่างกัน
- ภาพสินค้า 3 มิติ (3D product) : Google จะแสดงมุมมองของสินค้าแบบ 360 องศา โดยใช้ภาพที่ผู้ขายจัดเตรียมไว้ ทำให้ User ได้เห็นภาพสินค้าแบบสมจริงมากยิ่งขึ้น
- วิดีโอสินค้าสั้น ๆ (short-form product videos) : ผู้ลงโฆษณาสามารถใส่วิดีโอสินค้าสั้น ๆ ที่สร้างโดยแบรนด์หรืออินฟลูเอนเซอร์ลงในโฆษณาได้ ซึ่งวิดีโอที่ว่าสามารถคลิกและโต้ตอบกันได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถดูสินค้าที่เกี่ยวข้องและรับคำแนะนำต่าง ๆ จากผู้ขายได้ดีมากขึ้น
Demand Generation - ยกระดับ Youtube Shorts ที่ช่วยให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
Google เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Youtube Shorts เอาไว้ว่า ผู้คนส่วนใหญ่ดูวิดีโอ Shorts มากกว่า 70 พันล้านวิวต่อวัน ซึ่งจากสถิตินี้ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าคนหันมาให้ความสนใจกับคลิปวิดีโอสั้นมากขึ้น โดยฟีเจอร์ที่ Google พูดถึงจะเข้ามาช่วยยกระดับโฆษณาบน YouTube Shorts ให้กลมกลืนไปกับผู้ใช้งานมากขึ้น ด้วยการเพิ่มองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เช่น สติ๊กเกอร์แบบคลิกได้, ปัดหน้าจอไปทางซ้ายเพื่อดู Landing Page บน Youtube หรือแม้กระทั่งการสร้างสรรค์แอนิเมชันจากภาพนิ่ง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Youtube Affliated Program ที่คล้ายคลึงกับ Tiktok Shop แบบที่เราคุ้นเคยแต่ต่างกันตรงที่ใช้ได้กับ Shopify เป็นเจ้าแรก
Gen AI - ช่วยสร้าง Report ออกมาได้แล้ว
GenAI จาก Google Ads ช่วยสร้างรีพอร์ตให้เราได้แล้ว โดยหลัก ๆ ที่เราต้องทำคือการป้อนสิ่งที่ต้องการผ่าน Prompt เท่านี้ก็จะได้รีพอร์ตออกมาแบบประหยัดเวลาสุด ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบวัดผล Conversion อัจฉริยะ ที่จะช่วยวิเคราะห์จุดอ่อนของบัญชีโฆษณา พร้อมแจ้งเตือนสิ่งที่ควรปรับปรุงเพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
Visual Brand Profiles on search - ช่วยให้แบรนด์ของเราโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม
Google เปิดตัวฟีเจอร์โปรไฟล์แบรนด์วิชวลบนการค้นหา ช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้างโปรไฟล์ของแบรนด์ที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ ได้ในหน้าค้นหาของ Google โดยข้อมูลที่แสดงจะประกอบไปด้วย รูปภาพและสื่อประเภท Rich Media ของแบรนด์, โปรโมชันสินค้า, วิดีโอ และ รีวิว โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นบนหน้าค้นหาและช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่สนใจ สามารถดูคลิปวิดีโอของงาน Google Marketing Live – 2024 ฉบับย่อ 7 นาทีได้ที่นี่
สรุป
และนี่ก็คือ 6 ประเด็นที่น่าสนใจทั้งหมดจากงาน Google Marketing Live – 2024 ที่ทำให้เราเห็นแล้วว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านโฆษณา รวมถึงยอดขายต่าง ๆ มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่า AI จะเข้ามาแทนที่คน แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในแคมเปญ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ฉะนั้นแบรนด์ต่าง ๆ ควรหันมาให้ความสนใจและสามารถนำข้อมูลนี้ไปลองปรับใช้กันได้เลย