4 ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar ช่วยให้แบรนด์รู้จักลูกค้ามากขึ้น

4 ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar ช่วยให้แบรนด์รู้จักลูกค้ามากขึ้น
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ในการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ นอกจากไอเดียที่สร้างสรรรค์แล้ว ก็จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่เข้ามาช่วยเสริมให้การทำคอนเทนต์นั้นมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Content Pillar ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้

Content Pillar คืออะไร

Content Pillar คือ หัวข้อหรือหมวดหมู่ของเนื้อหา ที่เราต้องการสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยจะเป็นศูนย์กลางของเนื้อหาทั้งหมด มีส่วนช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าธุรกิจที่กำลังทำอยู่นั้น ทำเกี่ยวกับอะไร และต้องการจะสื่ออะไรไปถึงผู้อ่าน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้อ่านสามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายอีกด้วย

ประเภทของ Content Pillar

รูปแบบของ Content Pillar

รูปแบบของ Content Pillar มีหลากหลายรูปแบบ เพราะกลุ่มเป้าหมายของแต่ละธุรกิจนั้นมีความสนใจในคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน ซึ่งรูปแบบของ Content Pillar นั้นมีดังนี้

Infographics

Infographics เป็นรูปแบบของคอนเทนต์ที่เราพบเจอได้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของออฟไลน์ ตามแผ่นประกาศต่าง ๆ หรือตามเสาไฟฟ้าบนถนน และในรูปแบบของออนไลน์ ที่จะเป็นกราฟิกดิจิทัลที่มีความสวยงาม เป็นรูปแบบของคอนเทนต์ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ข้อมูล หรือข่าวสารที่ต้องการจะส่งต่อให้ครบ จบ ในหน้าเดียวได้ โดยจะมีการสื่อสารผ่านรูปภาพ เพิ่มสีสันให้ดูน่าสนใจ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของธุรกิจไว้ ให้เห็นครั้งเดียวก็รู้เลยว่าเป็น Infographics ของธุรกิจนี้

Video

Pillar ในรูปแบบของวิดีโอ ถือเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีหลังมานี้ เพราะเป็นรูปแบบของคอนเทนต์ที่นำเสนอเนื้อหาแบบเคลื่อนไหว เล่าเรื่องผ่านตัววิดีโอ ทำให้ผู้ชมเข้าใจธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยคอนเทนต์วิดีโอส่วนใหญ่ที่เราจะได้เห็นอยู่บ่อย ๆ เช่น วิดีโอที่โปรโมตสินค้า, วิดีโอบอกเล่าที่มาที่ไปของสินค้า, วิดีโอที่เป็นกระบวนการผลิตสินค้า เป็นต้น

Blog Post

Blog Post นับว่าเป็นคอนเทนต์อีกรูปแบบหนึ่งที่จะปรากฏบนเว็บไซต์เป็นหลัก ซึ่ง Blog Post เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่แล้วแต่แบรนด์จะนำเสนอ ซึ่งมีทั้งบทความสั้นและบทความยาว สามารถใช้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ความรู้ วิธีการใช้งาน ซึ่งนี่จะเป็นช่องทางหลักที่คนนิยมทำ Content Pillar เพราะจะช่วยในเรื่องของ SEO ได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากกลุ่มคนแต่ละกลุ่มก็มีความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไป การใช้ Content Pillar เหล่านี้จะช่วยให้เนื้อหาบนเว็บไซต์มีความหลากหลาย น่าสนใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้น

ความสำคัญของการทำ Content Pillar

Content Pillar เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยวางโครงสร้างของเนื้อหา ทั้งบน Social Media และบนเว็บไซต์ สำคัญอย่างมากในการที่จะแบ่งหมวดหมู่ตามคอนเทนต์ที่ธุรกิจต้องการจะสื่อสารออกไป และตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ และยังช่วยวางแผนการโปรโมทและโฆษณาคอนเทนต์แต่ละชิ้นได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการใช้ Content Pillar

การใช้ Content Pillar ในการทำงานมีประโยชน์มากมายหลายข้อ ในพารากราฟนี้เราจะกล่าวถึงประโยชน์หลัก ๆ 4 ข้อที่แบรนด์จะได้รับเมื่อนำกลยุทธ์นี้มาปรับใช้

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด

Content Pillar ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อเนื้อหาออกมาได้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ดึงความสนใจก็จะเกิดการแชร์ การถูกใจ และแสดงความคิดเห็นมากขึ้นในคอนเทนต์ที่ผู้อ่านสนใจ ยิ่งถ้าทำคอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้อ่านได้ง่าย ๆ ย่อยง่าย หรือกระตุ้นให้เกิดการกระทำใด ๆ กับคอนเทนต์นั้น ก็จะยิ่งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างธุรกิจกับผู้อ่าน

ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น

Content Pillar เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะหลังจากที่ทำการเผยแพร่คอนเทนต์ไป และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมาย ได้พบเจอหรือแวะเวียนผ่านเข้ามาในธุรกิจของเราได้อย่างง่ายดาย

เพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Content Pillar จะช่วยให้เราสามารถจัดหมวดหมู่ของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น เนื้อหาที่เรามีก็จะเป็นระบบมากขึ้น ผู้ชมจะได้รับคอนเทนต์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น และยังส่งผลดีต่อ SEO ทำให้ถูกค้นพบใน Google ได้มากขึ้น

วาง Keyword ในการทำคอนเทนต์ได้ดีขึ้น

เวลาที่เราวางแผนแบ่งหมวดหมู่ของเนื้อหาแล้ว สิ่งที่เราจำเป็นต้อง Research เพิ่มเติมก็คือ Keyword ของเนื้อหา ซึ่ง Content Pillar จะช่วยให้เข้าถึง Keyword ได้ดี และเจาะกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ Keyword นั้นได้เฉพาะกลุ่มมากขึ้นด้วย

อาจกล่าวได้ว่า Content Pillar เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มคุณภาพและการเข้าถึงเนื้อหา ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ทำให้การทำการตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

4 ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar และการนำไปใช้ประโยชน์

ก่อนที่เราจะเริ่มดำเนินการใช้กลยุทธ์ Content Pillar จำเป็นต้องมีการกำหนดแผนในการดำเนินการให้ชัดเจน กำหนดเนื้อหาที่ต้องการสร้าง รวมถึงกำหนดแผนในการเผยแพร่เนื้อหา เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งขั้นตอนการสร้าง Content Pillar มีด้วยกัน 4 ขั้นตอน ดังนี้

กำหนดเป้าหมายของธุรกิจ

ธุรกิจจะไม่สามารถดำเนินได้เลย ถ้าหากไม่มีการตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ เพราะเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการ จะเป็นตัวกำหนด Content Pillar แต่ละ Pillar เลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มยอดขายของสินค้า ก็ต้องทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสินค้า ประโยชน์ของสินค้า และวิธีการใช้สินค้า เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจและสนใจสินค้ามากขึ้น

วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและคู่แข่ง

ก่อนลงมือจริง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ให้ดีก่อน จะได้รู้ว่าคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เราทำไปนั้น ต้องการจะส่งหรือจะสื่อไปถึงใคร วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด ทั้งข้อมูล Personal และความสนใจต่าง ๆ ที่สำคัญต้องวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อเป็นข้อมูลในการสร้าง Content Pillar ประกอบกันไปด้วย ท้ายที่สุดคอนเทนต์ที่ทำออกมา ก็จะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าที่เคย

วางแผนหัวข้อหลักของ Content Pillar

เมื่อกำหนดเป้าหมายและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงวิเคราะห์คู่แข่งเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็คือขั้นตอนของการวางแผนหัวข้อหลักของ Content Pillar โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการทำคอนเทนต์และธุรกิจเป็นหลัก

เลือกช่องทางในการเผยแพร่คอนเทนต์

เมื่อเรามีหัวข้อ Content Pillar ก็ลองสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ของเราไปยังช่องทางต่าง ๆ ได้เลย ทั้งนี้แนะนำให้แบ่งไปตามความเหมาะสมของแต่ละแพลตฟอร์ม และตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นให้เราวัดผลจากการสร้าง Content Pillar ต่อไปในอนาคต

กลยุทธ์ Content Pillar เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดออนไลน์และการจัดการเนื้อหา ทั้งยังช่วยให้แบรนด์รู้จักกลุ่มเป้าหมายและรู้จักกับคู่แข่งมากขึ้น ท้ายที่สุดย่อมส่งผลให้แบรนด์เติบโตได้ในระยะยาว

Content Pillar ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

Content Pillar ที่ดีควรมีลักษณะและคุณสมบัติดังนี้ เพื่อช่วยให้การสร้างเนื้อหามีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่

เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย (Relevant to the Audience)

เนื้อหาคอนเทนต์ควรมีความเกี่ยวข้องและน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย ทั้งด้านความต้องการ ความสนใจ และปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดและรักษาผู้ชมได้

มีคุณค่า (Valuable)

เนื้อหาควรให้ข้อมูลที่มีประโยชน์และมีคุณค่าแก่ผู้ชม เช่น การให้คำแนะนำ ความรู้ หรือการแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าเผชิญอยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์

สม่ำเสมอ (Consistent)

ผลิตเนื้อหาคอนเทนต์ให้มีความสม่ำเสมอ ทั้งในด้านคุณภาพและการเผยแพร่ โดยวางแผนเนื้อหาและการตั้งตารางการเผยแพร่ที่แน่นอน เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกคุ้นเคยและคาดหวังได้จากแบรนด์

มีความหลากหลาย (Diverse)

เนื้อหาควรมีความหลากหลายทั้งในส่วนของรูปแบบและหัวข้อ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและช่วยลดความน่าเบื่อ จำเจ โดยอาจใช้รูปแบบของเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น บทความ วิดีโอ พอดแคสต์ หรือแม้กระทั่งอินโฟกราฟิกเข้ามาช่วยเพิ่มความน่าสนใจ

ปรับตัวได้ (Adaptable)

เนื้อหาควรมีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในตลาด ทั้งนี้รวมถึงการปรับตัวความต้องการของลูกค้าอีกด้วย โดยนักการตลาดจะต้องติดตามและวิเคราะห์ผลการตอบรับของเนื้อหาอยู่เสมอ จะช่วยให้ปรับปรุงและพัฒนาเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่อง

เสริมสร้างความเชี่ยวชาญ (Showcase Expertise)

เนื้อหาต้องแสดงถึงความเชี่ยวชาญและความรู้ในอุตสาหกรรมที่แบรนด์ทำอยู่ โดยให้ข้อมูลที่ละเอียดและน่าเชื่อถือ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์

สร้างความสัมพันธ์ (Engaging)

เนื้อหาควรมีลักษณะที่ชวนให้ผู้ชมมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการคอมเมนต์ แชร์ หรือการโต้ตอบกับเนื้อหา ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชม

มีเป้าหมายที่ชัดเจน (Goal-Oriented)

เนื้อหาควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ การสร้างลูกค้าเป้าหมาย หรือการเพิ่มยอดขาย ซึ่งการวางแผนเนื้อหาโดยคำนึงถึงเป้าหมายทางธุรกิจจะช่วยให้การสร้างเนื้อหามีทิศทางและสามารถวัดผลได้

การทำ Content Pillar ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้การสร้างเนื้อหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสามารถตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด

ตัวอย่างการทำ Content Pillar

- 1 - 4 ขั้นตอนการสร้าง Content Pillar ช่วยให้แบรนด์รู้จักลูกค้ามากขึ้น

ตัวอย่างในการทำ Content Pillar ที่นิยมในปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

Content Pillar ที่แบ่งตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจ

  • Engagement : สร้างคอนเทนต์เพื่อต้องการเพิ่มจำนวน Like, Share และ Comment
  • Brand Awareness : สร้างขึ้นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายจดจำ รับรู้ และรู้จักธุรกิจมากขึ้น
  • Selling : สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายโดยเฉพาะ
  • Reviews : สร้างขึ้นเพื่อให้เกิดการพูดถึงธุรกิจในมุมที่กว้างขึ้น และแนะนำสินค้าในมุมมองของผู้ใช้งานจริง

Content Pillar ที่แบ่งตามเนื้อหาคอนเทนต์

  • Lifestyle : คอนเทนต์เชิงไลฟ์สไตล์ ที่ดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาอ่าน
  • Education : คอนเทนต์ในเชิงให้ความรู้ อาจจะเป็นความรู้เกี่ยวกับสินค้า ความรู้ในการนำไปใช้ เคล็ดลับ เทคนิคต่าง ๆ
  • Realtime : คอนเทนต์ที่เกิดขึ้น ณ เดี๋ยวนั้น ตามกระแส เป็นไวรัล
  • Seasoning Content : คอนเทนต์ในฤดูกาล เทศกาล และวันหยุดต่าง ๆ

ทั้งนี้ในการสร้างสรรค์ Content Pillar ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำควบคู่กัน ทั้ง 2 รูปแบบ ตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์ในการสื่อสารชัดเจน เพื่อให้สามารถแบ่งประเภทของเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับสิ่งที่ต้องการจะสื่อสาร ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่อาจช่วยให้คอนเทนต์ของทุกคนเป็นที่รู้จัก ตลอดจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ไวรัล’ ได้เลย

สรุป

Content Pillar เป็นกลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ได้ดีและง่ายมากขึ้น ช่วยให้แผนคอนเทนต์ของคุณมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นสิ่งที่คนทำคอนเทนต์ควรให้ความสำคัญมาก ๆ แต่ก็ไม่มากเท่าการสร้างเนื้อหาดี ๆ ที่ออกมาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดนั่นเอง