Video Marketing ในปัจจุบันเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด โดย Video Marketing คือการใช้สื่อภาพวิดีโอมาทำการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสื่อในรูปแบบวิดีโอนั้น ถือเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ดึงดูดคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขายผ่านทางวิดีโอได้เช่นกัน
Video Marketing ในปัจจุบัน สำคัญอย่างไร ?
ในปัจจุบันวิดีโอสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อยู่เรื่อย ๆ นักการตลาดยังคงใช้วิดีโอในการสร้างแคมเปญการตลาด ทั้งวิดีโอแบบสั้นและแบบยาว เพราะวิดีโอเป็นสื่อที่ผู้ใช้งานสามารถเสพได้ง่า อีกทั้งในปัจจุบันแพลตฟอร์มก็ให้ความสำคัญกับวิดีโอมากขึ้น
จากข้อมูลสถิติทางการตลาดที่รวบรวมโดย Sprroutsocial ในปี 2022 พบว่า 93% ของนักการตลาดบน Social Media กล่าวว่า วิดีโอมีความสำคัญอย่างมากในการสร้างกลยุทธ์ของการตลาดให้ธุรกิจ และกว่า 54% บอกว่า วิดีโอเป็นประเภทคอนเทนต์ที่มี Value มากที่สุด แถมยังสามารถนำหลักการของ SEO มาปรับใช้กับการทำ Video Makreting ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพของวิดีโอเหล่านั้นได้ด้วย อาทิ การใช้ Keyword ในการมาตั้งชื่อคลิปวิดีโอ และ Description ของวิดีโอนั่นเอง
4 เหตุผลที่ธุรกิจควรทำ Video Marketing
หลายธุรกิจเริ่มสงสัยว่า การลงทุนทำ Video Marketing สัก 1 วิดีโอออกมา มันคุ้มค่าจริง ๆ หรือเปล่า ขอตอบเลยว่า คุ้มค่าแน่นอน เพราะในตอนนี้ไม่ว่าใครก็ทำวิดีโอกันทั้งนั้น มาดูกันว่า ทำไมธุรกิจถึงต้องเริ่มใช้ Video Marketing
- วิดีโอช่วยเพิ่มยอดขาย : วิดีโอ สามารถทำเงินให้ได้มากมาย โดยวิดีโอจะช่วยกระตุ้นให้คนดูตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น
- วิดีโอแสดงค่าตอบแทนจากการลงทุน ROI ที่ยอดเยี่ยม : 76% ของธุรกิจต่างบอกว่าวิดีโอให้ค่าตอบแทนที่ดี แม้การสร้าง Video Production ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยังได้ผลตอบแทนกลับมาเยอะเหมือนกัน
- วิดีโอสร้างความไว้ใจให้ลูกค้า : ความไว้ใจเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจ ผู้บริโภคบางคนกลัวว่า การซื้อสินค้าบนอินเทอร์เน็ตนั้นอาจจะถูกโกง หรือแม้กระทั่งของจะมาส่งจริงหรือเปล่า แต่การใช้วิดีโอทำ Video Marketing จะทำให้ผู้บริโกรคการที่จะซื้อมากขึ้น มีความมั่นใจในการเลือกซื้อมากขึ้น
- วิดีโอดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มือถือ : มีรายงานว่า Youtube มีผู้คนเข้าชมวิดีโอผ่านมือถือมากขึ้น 100% ทุกปี เพราะคนชอบดูวิดีโอระหว่างเดินทาง และจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นคนที่รับชมวิดีโอก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ วิดีโอที่เกี่ยวกับการให้ความรู้หรือวิธีการใช้งาน ก็เป็นวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน หากแบรนด์มีการสร้างวิดีโอที่อธิบายเกี่ยวกับการใช้งานสินค้า บริการ หรือให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน อ่านมาถึงตรงนี้เริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมธุรกิจต้องเริ่มใช้ Video Marketing
เจาะลึกเทรนด์ Video Marketing ในปี 2024
ในปี 2024 แน่นอนว่าเทรนด์ Video Marketing ในปีนี้ก็จะเปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นไปที่เทรนด์วิดีโอสั้น เพิ่มลูกเล่นให้สนุกนานบน Social Media มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันทุกแพลตฟอร์มทำฟีเจอร์ออกมาเพื่อรองรับวิดีโอสั้น ยกตัวอย่างเช่น Tiktok, Instagram Reels, Facebook Reels และ Youtube Shorts เป็นต้น หากธุรกิจลองปรับการทำคอนเทนต์จากการทำแค่โพสต์หรืออัลบั้มมาเป็นวิดีโอสั้นที่เน้นความสนุกสนาน เข้าใจง่าย หรือให้ความรู้แบบสนุก ๆ อาจจะมีเสียงเพลงประกอบ อาจช่วยชักจูงผู้บริโภคให้รับชมคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น
คอนเทนต์ในรูปแบบของการทำไลฟ์สด ช่วยเพิ่ม Traffic ในช่องทาง Social Media ที่เราทำการไลฟ์สดได้ อีกทั้งยังนำตัวไลฟ์ที่ว่ามาต่อยอดทางการตลาดได้อีกด้วย ข้อดีคือลูกค้าจะรู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น ทั้งยังสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองของสินค้าอีกด้วย
เป็นคอนเทนต์วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนในแต่ละขั้น ก่อนจะออกมาเป็นสินค้าที่ลูกค้าซื้อ โดยเนื้อหาจะช่วยให้ลูกค้าได้เห็นถึงกระบวนการผลิต การทำงานต่าง ๆ ก่อนที่จะออกมาเป็นสินค้านั่นเอง
วิดีโอที่เกี่ยวกับ How to ความน่าสนใจจะอยู่ที่ สาระหรือความรู้ที่แบรนด์ต้องการจะสื่อ แน่นอนว่าเมื่อรับชมจบแล้ว ผู้ชมจะต้องได้ความรู้อะไรใหม่ ๆ กลับไปด้วย
ถือเป็นวิดีโอแบบสั้นที่รวบรวมเนื้อหาที่น่าสนใจมาให้ผู้ชม โดยระยะของคลิปรวม ๆ แล้วไม่เกิน 1 นาที อาจจะเป็น Shortcut ที่ตัดมาจากวิดีโอก็ได้เช่นเดียวกัน
รูปแบบของวิดีโอนี้จะเป็นคลิปที่อยู่บน Facebook และ Instagram สามารถเล่าคอนเทนต์วิดีโอได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งไลฟ์สไตล์ทั่วไป หรือเป็น Challenge ให้ทำต่อ ๆ กันก็ได้เช่นกัน
ถ้าเกิดว่าใครได้ลองดู Tiktok จะเห็นได้ว่าหลายคลิปวิดีโอมีการทำออกมาพร้อมติดตะกร้าสินค้าไว้ บางคนก็มีการส่งสินค้าให้อินฟลูรีวิวในรูปแบบวิดีโอและติดตะกร้าสินค้าด้วยเช่นกัน ถ้าเกิดว่าวิดีโอนั้นดึงดูดความสนใจจนคนอยากกดซื้อตาม ก็สามารถซื้อสินค้าจากวิดีโอนั้นได้ทันที ยิ่งวิดีโอไหน กระชับและเข้าใจง่าย ก็จะดึงดูดลูกค้าได้ดีมากขึ้นไปอีก
วิธีสร้าง Video Marketing ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
คิดก่อนว่าวิดีโอที่ทำ ต้องการสื่ออะไรไปถึงลูกค้า
ก่อนอื่นเลยต้องคิดก่อนว่า วิดีโอที่เราต้องการจะทำนั้นจะสื่อถึงอะไรบ้าง ขั้นแรกคือต้องการวางแผนในการทำวิดีโอให้ดีเสียก่อน เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสที่จะไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากขึ้น อาจเริ่มจากการกำหนดจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้งาน โดยกำหนด Keyword ที่จะใช้สำหรับตัววิดีโอ ชื่อวิดีโอ และแคปชัน รวมถึง Mood&Tone ของวิดีโอว่าจะออกมาอย่างไร เพื่อให้รูปแบบในการนำเสนอวิดีโอนั้นตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด ถ้าเราแค่ถ่าย ๆ ออกมาเลย โดยไม่ได้วางแผนให้ดีก่อน อาจส่งผลให้คลิปวิดีโอของเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน
วางแผนการเล่าเรื่องให้ดี
นอกจากวางแผนในการทำวิดีโอให้ดีแล้ว ต้องวางแผนการเล่าเรื่องให้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งคอนเทนต์วิดีโอหลัก ๆ จะอยู่ที่ภาพและเสียง เราต้องมีวิธีในการเล่าเรื่องราวออกมาให้ผู้ใช้งานเข้าใจได้ง่าย และควรเล่าเรื่องที่มีความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ชมให้ดูคลิปวิดีโอของเราจนจบ
การตัดต่อก็มีส่วนสำคัญ
การตัดต่อถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เรากำหนดทิศทางและคุณภาพของวิดีโอนั้น ๆ ให้ได้ตรงประเด็นที่สุด ทั้งนี้การตัดต่อยังช่วยตีโจทย์ในด้านการนำเสนอ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจ ยิ่งถ้าเราตัดวิดีโอออกมาให้มีเนื้อหากระชับ และสารที่จะสื่อไปยังผู้ชมนั้นครบถ้วน ก็จะยิ่งทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่าย เพราะบางวิดีโอหากมีความยาวเกินไปและไม่ได้มีสาระ มีแต่น้ำ ผู้ชมอาจจะรู้สึกเบื่อและปัดทิ้งไปได้ทันที
ภาพปกที่ดึงดูด ชื่อเรื่องที่ทัชใจ
ก่อนผู้ชมจะคลิกเข้าชมวิดีโอสักตัว สิ่งที่จะดึงดูดใจได้ดีก็คือ ภาพปกคลิป ซึ่งภาพที่สื่อออกมาควรทำให้คนเห็นและเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ทำให้ผู้ชมเกิดความสนใจและพร้อมที่จะกดเข้ามาดู ทั้งนี้ชื่อเรื่องและแคปชันที่อธิบายก็มีความสำคัญเหมือนกัน เพราะต้องมีใจความที่ครบและกระชับ ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงเนื้อหาของวิดีโอนั่นเอง
เช็กฟีดแบคจากวิดีโอ พร้อมนำมาปรับปรุงและแก้ไข
หลังจากเผยแพร่วิดีโอออกไปแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเช็กฟีดแบคที่เกิดขึ้นกับวิดีโอตัวนั้น เพราะนั่นจะทำให้เราเห็นผลตอบรับต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าวิดีโอที่เราเผยแพร่ไปนั้น ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าเกิดว่าไม่ได้ ลองนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและแก้ไขวิดีโอของคุณให้ดีขึ้น
ข้อดีของการทำ Video Marketing
ใช้ต้นทุนไม่มาก
วิดีโอที่ทำขึ้นมา 1 ตัวนั้นสามารถเผยแพร่พร้อมกันได้หลาย ๆ ช่องทาง และวิดีโอในปัจจุบันนี้ เพียงแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็สามารถถ่ายคลิปวิดีโอพร้อมเผยแพร่ได้ทันทีอีกด้วย
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า
ปัจจุบันคนใช้งานอินเทอร์เน็ตทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทั้งเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนัง อัปเดตข่าวสาร และเมื่อคุณอัปโหลดคลิปวิดีโอ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
เพิ่มความน่าเชื่อถือ
วิดีโอทำให้ผู้ที่ได้รับชมรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติมากกว่าการอ่านโพสต์ ความน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งที่ผู้ชมจำเป็นต้องรู้สึกได้ก่อนเริ่มใช้บริการ วิดีโอที่ดีจะช่วยกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้รับชมได้ ทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ ก่อให้เกิดความเชื่อใจจากลูกค้า ทำให้ลูกค้ากล้าที่จะใช้ เมื่อเป็นเช่นนั้นธุรกิจของเราก็จะเกิดความมั่นคงในระยะยาวด้วยเช่นกัน
Google ชอบวิดีโอ
วิดีโอช่วยให้ผู้ชมอยู่ในเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า จะช่วยให้อัตราของ Bounce rate ลดลง ส่งผลให้ SEO ขยับอันดับสูงขึ้นได้
สื่อสารสิ่งที่ธุรกิจต้องการอธิบายทั้งหมดได้
ธุรกิจบางเจ้า ทำสินค้าใหม่ออกมา แต่ยังไม่รู้ว่าต้องโปรโมตอย่างไรให้คนรู้จัก การเลือกใช้วิดีโอมาอธิบายสินค้าใหม่ จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะวิดีโอที่กระชับ เหมาะสม ช่วยประหยัดเวลา และเข้าถึงผู้ชมได้ดีอีกด้วย
เพิ่มอัตราในการแชร์ต่อใน Social Media
ใน Social Media วิดีโอคอนเทนต์ที่ดึงดูความสนใจของลูกค้าได้ จะทำให้เกิดการแชร์ต่อ ๆ กันไปในวงกว้าง แถมแพลตฟอร์ม Social Media ในปัจจุบันยังมีฟีเจอร์และลูกเล่นต่าง ๆ ที่ทำให้วิดีโอของคุณน่าสนใจขึ้น พลังแห่งการแชร์ ย่อมทำให้วิดีโอของคุณเป็นไวรัลได้ดีอีกด้วย
ตัวอย่างธุรกิจที่นำ Video Marketing มาใช้จนประสบความสำเร็จ
ไทยประกันชีวิต
ไทยประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เรียกได้ว่า ทำวิดีโอคอนเทนต์ออกมาได้น่าสนใจและดึงดูดผู้คนมาก ๆ ในแต่ละแคมเปญ สามารถทำให้ผู้ชมมานั่งลุ้นได้ว่ารอบนี้ ไทยประกันชีวิตจะทำวิดีโอโฆษณาออกมาในรูปแบบไหน ยกตัวอย่างเช่นวิดีโอด้านบน ที่สื่อถึงการแสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการบอกรัก การกอดกัน ซึ่งก็เปรียบกับการซื้อประกัน ที่เป็นหนึ่งในการแสดงความรักที่ดี
ไทยประกันชีวิต เป็นธุรกิจที่ทำ Video Marketing ออกมาให้รูปแบบของหนังสั้น เน้นให้คนดูยาว ๆ และสื่อถึงสินค้าของตัวเองแบบแฝง ไม่ได้เน้นมากนัก จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางการทำ Video Marketing ที่น่าสนใจ
Toyota
ตัวอย่าง Video Marketing อีกรูปแบบนั่นคือการทำ Music Video ที่ให้คนติดตามได้ โดยการดึงเอาศิลปินมา Featuring กันในเพลง และใช้ความสนุกของเพลงในการโปรโมตสินค้าไปในตัว สิ่งนี้จะช่วยให้คนติดตาม Video ที่จะถูกปล่อยออกมาได้มากขึ้น
นอกจากนี้ Toyota ก็มีรูปแบบวิดีโอที่เน้นไปที่การทำงานของสินค้า ประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงการบอกเล่าดีเทลของสินค้าเกือบทุกคลิป ทำให้ลูกค้าดูวิดีโอแล้วสามารถเข้าใจสินค้านั้นได้ภายในวิดีโอเดียว
Hometomyheart & Diamondgrains
Hometomyheart และ Diamondgrain เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณอูน ชานิศรา ที่ส่วนใหญ่มักทำวิดีโอในการโปรโมตสินค้าผ่านช่องทาง TikTok โดยจะเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ แต่ได้ใจความ ทั้งวิธีในการใส่เสื้อ วิธีในการสั่ง หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ทั่วไปที่มีสินค้าของตัวเองเข้ามาประกอบ ด้วยความที่เป็นวิดีโอสั้น เข้าใจง่าย ทำให้มีคนติดตามและซื้อสินค้าหลังจากเปิดตัวหมดได้ เร็วสุดภายใน 2 วินาทีนั่นเอง
Ref Video : Hometomyheart & Diamondgrains
สรุป
Video Marketing ยังคงเป็นที่นิมยมมาก ๆ ในปัจจุบัน นิยมขนาดที่ว่าบางธุรกิจไม่เคยเข้ามาใช้กลยุทธ์นี้เลย แต่พอได้มาเริ่มใช้ ก็ได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทุกวัน ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่สนใจเรื่อง Video Marketing ไม่จำเป็นต้องลงทุนกับ Production ใหญ่ ๆ มีแค่เพียงสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถรังสรรค์วิดีโอที่คุณต้องการได้ทันที