แหล่งรวมความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ - Digital Marketing

เพื่อให้ทุกคนที่มีความสนใจ อยากเรียนรู้ และสนุกไปกับโลกของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, Facebook Ads, Google Ads, WordPress, Data Driven, Content Marketing และอื่นๆ

แหล่งรวมความรู้ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือการตลาดออนไลน์ Digital Marketing
เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing ใช้เครื่องมืออะไรได้บ้าง ?
Data Driven Marketing

เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing ใช้เครื่องมืออะไรได้บ้าง ?

หลาย ๆ แบรนด์ในช่วงนี้เริ่มหันมาให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันกับ Data มากขึ้น เพราะทุก Data ที่อยู่รอบตัว เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญของแบรนด์ สามารถทำให้ตัวแบรนด์เองเข้าใจลูกค้าและทำการตลาดได้ดี

Storytelling กลยุทธ์สร้างแบรนด์ด้วย Content Marketing
Content Marketing

Storytelling กลยุทธ์สร้างแบรนด์ด้วย Content Marketing

การเล่าเรื่องที่ดีควรประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ? Storytelling หรือ เรื่องเล่าที่ดีควรประกอบไปด้วย 5 ข้อนี้ สนุก แน่นอนว่า ถ้าเรื่องเล่านั้นไม่สนุก

เรียนรู้การทำงานของ Data Driven Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ
Data Driven Marketing

เรียนรู้การทำงานของ Data Driven Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์การทำ Data Driven Marketing ส่งผลดีต่อนักการตลาดที่ทำงานด้านข้อมูลเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้รู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตัวเองได้ดีขึ้นแล้ว ยังเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย อย่างที่รู้กันว่า ลูกค้าในปัจจุบัน มักต้องการใช้บริการแบรนด์ที่เหมาะกับตัวเองและเข้าใจตัวเองมากที่สุด

Storytelling Marketing ช่วยเจ้าของธุรกิจได้อย่างไร ?
Content Marketing

Storytelling Marketing ช่วยเจ้าของธุรกิจได้อย่างไร ?

Storytelling Marketing คืออะไร ? มนุษย์ผูกพันธ์กับการเล่าเรื่องมานับพันปี ตั้งแต่การเล่าด้วยการพูด การเขียน การทำวิดิโอ การทำอินโฟกราฟฟิค จนถึงการไลฟ์สดในปัจจุบัน

ยกระดับ ROI ด้วย Data Driven Marketing
Data Driven Marketing

ยกระดับ ROI ด้วย Data Driven Marketing

ในโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป รูปแบบของการทำการตลาดก็เปลี่ยนไปเช่นกัน การตลาดในรูปแบบเก่าที่อาศัยสมมุติฐานหรือตัดสินใจจากความรู้สึกของตัวเอง อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นักการตลาดทั้งหลายต่างมองหาวิธีที่จะทำให้ได้มาซึ่ง Data ที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถนำมาต่อยอดการตลาดได้ ซึ่งการทำ Data

Digital Marketing คืออะไร ทำไมแบรนด์ไม่ควรมองข้าม

Digital marketing คือการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ หรือ Search Engine เข้ามาเป็นตัวช่วยในการส่งสารจากแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์ควรให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม Digital marketing เป็นอันขาด เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่้ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทำให้ Digital Marketing เข้ามามีบทบาทสำคัญ หากแบรนด์ไม่ทำการศึกษาหรือปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลก็อาจจะทำให้เสียโอกาสในส่วนนี้

Digital Marketing ทำผ่านช่องทางใดได้บ้าง

Digital Marketing สามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้หลากหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ และกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจของแต่ละแบรนด์

  • Social Media Marketing : หนึ่งในกลยุทธ์ Digital Marketing ที่หลายคนให้ความสนใจ ถือเป็นการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, Line, Twitter, TikTok ซึ่งการทำการตลาดรูปแบบนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น และช่วยให้แบรนด์ปิดการขายได้ง่ายกว่าช่องทางอื่น ๆ อีกด้วย

  • Content Marketing : การทำการตลาดที่อาศัยคอนเทนต์เป็นเครื่องมือในการสื่อสารสิ่งที่แบรนด์ต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ วิดีโอ
  • Email Marketing : Email Marketing คือการทำการตลาดผ่านอีเมล โดยใช้ข้อมูลอีเมลจากฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่เพื่อส่งข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชันดี ๆ ไปยังกลุ่มลูกค้า โดยคาดหวังให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ

  • SEO : SEO หรือ Search Engine Optimization คือเทคนิคที่ช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของเราอยู่ตำแหน่งสูง ๆ บน Search Engine อย่าง Google ซึ่งหลักการของ SEO จะเป็นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพบนเว็บไซต์ โดยอาศัย Keyword ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนค้นพบเว็บไซต์ของเราโดยไม่เสียเงินสักบาท

  • SEM : SEM หรือ Search Engine Marketing คือการทำการตลาดออนไลน์ที่อาศัยการจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาของ Google ในรูปแบบ Search เมื่อลูกค้ามีการค้นหาแบรนด์หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์ของเราก็จะแสดงผลในลำดับแรก ๆ บน Google

  • Affiliate marketing : Affiliate marketing คือการทำการตลาดอนไลน์รูปแบบหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจจะทำการจ้างบุคคลที่ 3 หรือนายหน้าให้เข้ามาช่วยขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งเจ้าของธุรกิจจะให้ค่าตอบแทนกับนายหน้าเหล่านั้นในรูปแบบค่า Commission เรียกได้ว่าเป็นการทำการตลาดที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย

  • Influencer Marketing : Influencer Marketing ถือเป็นการทำการตลาดที่ใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือบุคคลที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มารีวิวสินค้าหรือบริการ ช่วยกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

รวม 5 Metric พื้นฐานของ Digital Marketing ที่ควรรู้จัก

  • CPC (Cost Per Click) คือเครื่องมือที่ใช้วัดต้นทุนต่อการคลิกของโฆษณา อาจกล่าวง่าย ๆ ว่าเราจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิก ซึ่งเราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายต่อคลิกเองได้

  • CPM (Cost Per 1,000 Impression) คือต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง อาจกล่าวได้ว่าโฆษณาของเราจะถูกคิดเงินก็ต่อเมื่อมีคนเห็นครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่มียอดคลิกเข้ามาเกี่ยวข้อง

  • CPL (Cost Per Lead) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าต้นทุนต่อ Lead เครื่องมือนี้จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรารู้ว่า Lead ที่เราได้รับกลับมาจากการทำแคมเปญนั้นเฉลั้ยอยู่ที่ราคากี่บาท ซึ่งวิธีการคำนวณก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใช้ ค่าโฆษณา หารด้วยจำนวน Lead ที่เราได้รับนั่นเอง

  • CPS (Cost Per Sales) หรือต้นทุนต่อการขาย กล่าวคือแบรนด์จะทำการจ่ายเงินหรือจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับผู้ที่ขายสินค้าได้ โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของ Affiliate Marketing นั่นเอง

  • CPA (Cost Per Action) ถือเป็นการคำนวณต้นทุนต่อ Action ที่เกิดขึ้นจากโฆษณา ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ทำให้เห็นว่าแบรนด์ต้องลงทุนเท่าไหร่จึงจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ ทั้งนี้การทำ CPA ต้องดูที่วัตถุประสงค์ของแบรนด์ด้วยเช่นกันว่าต้องการ Action แบบไหนจากลูกค้า เช่น การลงทะเบียน การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก เป็นต้น

ข้อดีของการทำ Digital Marketing

ในยุคที่คนส่วนใหญ่หันมาใช้เวลากับแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน การทำ Digital marketing นอกจากจะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีแล้ว ยังมีข้อดีอีกมากมาย

  1. ช่วยให้ธุรกิจเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น : Digital Marketing ช่วยให้ธุรกิจสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้า ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

  2. สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่าการตลาดแบบเดิม : การทำการตลาดดิจิทัลช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องและตรงจุดมากกว่าเดิม เพราะมีเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์ระบุอายุ เพศ รายได้ ความสนใจ และอื่น ๆ อีกมากมายของกลุ่มเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ

  3. มีเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยทำการตลาดได้หลากหลายและวัดผลได้แม่นยำมากขึ้น : การทำการตลาดในปัจจุบันมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ ติดตามกลุ่มเป้าหมาย เครื่องมือที่ช่วยพัฒนาคอนเทนต์ เป็นต้น

  4. ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด : การทำแคมเปญการตลาดในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการยิงโฆษณายังมีราคาถูกอีกด้วย ทั้งนี้การทำโฆษณาออนไลน์ยังวัดผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

  5. สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า : ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้แบรนด์กับลูกค้ามีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น อาทิ แบรนด์สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันท่วงที หรือแม้กระทั่งแบรนด์ส่งสารบางอย่างให้กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ซึ่งการมีส่วนร่วมเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างไม่ยากนัก ทั้งยังส่งผลต่อความจงรักภักดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์อีกด้วย

ยกตัวอย่างการใช้งาน Digital Marketing ในธุรกิจประเภทต่าง ๆ

ธุรกิจร้านอาหาร อาจใช้แพลตฟอร์ม Facebook ในการโปรโมตร้าน โดยการทำ Content marketing ที่นำเสนอเมนูอาหาร ราคา รวมถึงโปรโมชันที่น่าสนใจพร้อมยิงโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้า หรือแม้กระทั่งการเพิ่มยอดขายด้วยการใช้ Influencer marketing ในการช่วยรีวิวร้านอาหาร

ธุรกิจ E-Commerce อาจใช้การทำ SEO ในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ช่วยให้กลุ่มลูกค้ามีโอกาสเจอร้านค้าหรือแบรนด์ของเรา หรืออาจจะใช้ประโยชน์จาก Email marketing ในการส่งข้อมูลสินค้า โปรโมชัน รวมถึงส่วนลดไปยังลูกค้าโดยตรงก็ได้เช่นเดียวกัน

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามสามารถใช้ประโยชน์จากการทำ Digital marketing ได้ทั้งนั้น เพียงแค่เราต้องเลือกใช้ช่องทางให้เหมาะสมกับธุรกิจ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้ก่อนใคร